Salvador Dali : The Late Work รวบรวมผลงานในช่วงปลายของชีวิต ศิลปินเซอร์เรียลิสต์ชาวสเปน ซัลวาดอร์ ดาลิ จัดแสดงครั้งล่าสุดอยู่ที่หอศิลป์ ไฮ มิวเซียม ออฟ อาร์ต (High Museum of Art) ในแอตแลนตา สหรัฐอเมริกา โดยนับว่าเป็นชิ้นงานที่ไม่เคยจัดแสดงต่อสาธารณชนที่อเมริกา มากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว
ซัลวาดอร์นับเป็นจิตรกรเซอร์เรียลิสต์แถวหน้า โดยผลงานที่สร้างชื่อเสียงและโดดเด่นในแนว “เหนือจริง” อย่างภาพนาฬิกาหลอมละลายใน The Persistence of Memory ทำให้เขากลายเป็น “ไอคอน” ของวงการ ทว่า หลังจากสร้างสรรค์ผลงานในแนวทางนี้มาเป็นสิบๆ ปี เขาก็แยกตัวออกจากวงการไปสร้างสรรค์งานในรูปแบบอื่นๆ ทั้งด้วยเหตุผลทางด้านศิลปะและการเมือง
สำหรับผลงานที่จัดแสดงที่หอศิลป์ไฮ มิวเซียม ออฟ อาร์ต เป็นผลงานในช่วงหลังของชีวิต คือตั้งแต่ปี 1940 ถึง 1983 ซึ่งภัณฑารักษ์ผู้จัดนิทรรศการนี้ อย่าง เอลเลียต คิง บอกว่า เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจในการศึกษาผลงานศิลปะของซัลวาดอร์ ดาลิ อีกช่วงหนึ่งเช่นกัน
“เราได้เห็นผลงานของเขาตลอดศตวรรษที่ 20 แต่ว่า ดูเหมือนผู้คนจะโฟกัสไปในงานแนวเซอร์เรียลิสม์ในช่วงทศวรรษที่ 1930 มากที่สุด และเมื่อเขาเปลี่ยนแนวในการสร้างสรรค์ผลงาน ก็คล้ายกับซัลวาดอร์ได้ตายไปเลยตั้งแต่ปี 1940” เอลเลียต กล่าว
ซัลวาดอร์ ดาลิ ออกมาประกาศว่า ตัวเขาคือจิตรกรประเภทคลาสสิกในปี 1941 และเริ่มสร้างสรรค์ผลงานในแนวทางที่ประกาศออกมานับจากนั้น ทำให้บรรดานักวิจารณ์ออกมาดูหมิ่นดูแคลน และกล่าวหาว่า งานของเขาเหมือนกำลังเย็บปักถักร้อย หรือบางชิ้นก็มุ่งเชิงพาณิชย์มากเกินไป “ผมว่าบางทีคนทั่วไปก็อาจจะมองความแตกต่างของผลงานทั้งสองช่วงไม่ออกด้วยซ้ำ”
ภัณฑารักษ์คนเดิมให้ความเห็นต่อว่า แม้การเปลี่ยนแนวของซัลวาดอร์จะเป็นต้นเหตุของเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ “แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจในผลงานของเขาช่วงท้ายนี้”
เอลเลียต ว่า ในนิทรรศการครั้งนี้จะสร้างความรับรู้ในหลายระดับ สำหรับคนที่เพิ่งจะศึกษาผลงานของซัลวาดอร์ ดาลิ ก็จะสามารถได้ข้อมูลขั้นต้นในด้านจินตนาการลึกๆ และความรักการแสดงออกของศิลปินสแปนิช ขณะที่คนซึ่งรู้จักซัลวาดอร์ดีอยู่แล้ว ก็สามารถมาศึกษาความคิดในการงานสร้างสรรค์ผลงาน รวมทั้ง อีกหลายอย่างที่อาจไม่เคยเห็นในการแสดง ที่อื่นมาก่อน
นิทรรศการเบิกโรงด้วยภาพหนวดยาวอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินสเปน ถ่ายโดยช่างภาพอเมริกัน ฟิลิปป์ ฮัลส์แมน ตามด้วยผลงาน ในอดีตของซัลวาดอร์พอหอมปากหอมคอ เพื่อ “เท้าความ” สำหรับคนที่ไม่เคยชมผลงานของเขามาก่อน ก่อนที่จะเริ่มเข้าถึงผลงานช่วงหลังจากปี 1940 ทั้ง Nuclear Mysticism ที่บอกเล่าเรื่องราวในชีวิตของเขาเอง คือ การกลับเข้าเป็นชาวคริสต์อีกครั้ง และเรื่องราวเกี่ยวกับนิวเคลียร์ที่เขากำลังสนใจ
ภาพที่ต่อเนื่องกันคือ The Madonna of Port-Lligat เป็นภาพขนาดใหญ่รูปพระแม่ มารีทรงอุ้มพระบุตร รายรอบด้วยกรอบเฟรมภาพที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ภาพนี้ขอยืมมาจาก หอศิลป์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่เคยจัดแสดงในอเมริกามาตั้งแต่ปี 1951
อีกภาพที่โดดเด่นมาก ได้แก่ Santiago El Grande (Homage to Saint James) เป็นภาพของนักบุญเจมส์ ซึ่งถือว่าเป็นนักบุญผู้พิทักษ์ประเทศสเปน ในภาพยังมีพระเยซูถูกตรึงกางเขน ส่วนนักบุญเจมส์อยู่บนหลังม้าที่ทะยานขึ้นบนกลุ่มควันของระเบิดปรมาณู ภาพดังกล่าวขอยืมมาจากบีเวอร์บรูก อาร์ต แกลเลอรี ในเมือง นิวบรุนสวิก ประเทศแคนาดา ซึ่งไม่เคยให้ ใครยืมออกนอกสถานที่เลย นับแต่ได้ภาพนี้ไว้ ในครอบครองเมื่อปี 1959 เอลเลียตจึงเสริมว่าได้จัดแสดงเอาไว้ในที่สูง และต้องแหงนหน้า ชมกันนิดหน่อยเพื่อความปลอดภัยของภาพ
Christ of St. John of the Cross คือภาพดังอีกภาพ แสดงให้เห็นพระเยซูบนไม้กางเขน อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งบนโลก ข้างๆ ภาพดังกล่าว แสดงให้เห็นภาพศิลปินสเปนถ่ายรูปคู่กับบ๊อบบี เคนเนดี หน้าภาพเขียนเดียวกันเมื่อครั้งนำมาจากสกอตแลนด์ เพื่อมาแสดงในอเมริกาครั้งล่าสุดเมื่อปี 1965
ขณะที่ภาพ Assumpta Corpuscularia Lapilazulina คล้ายเป็นการกล่อมเกลาจิตใจ ซัลวาดอร์ ดาลิเอง ภาพนี้เป็นสมบัติส่วนบุคคล ซึ่งไม่เคยออกแสดงต่อสาธารณชนมาตั้งแต่ปี 1959 เช่นกัน เป็นภาพเขียนขนาดใหญ่ แสดงภาพใบหน้าของ กาลา ภรรยาของเขาเองในฐานะพระแม่มารีกำลังสวดส่งพระวิญญาณของ พระเยซูไปสู่สรวงสวรรค์
ภัณฑารักษ์ของนิทรรศการศิลปะ Salvador Dali : The Late Work บอกว่า ภาพแต่ละภาพในยุคนี้ ราวกับเรากำลังเดินทางแสวงบุญไปพร้อมกับผลงานของเขา
สำหรับส่วนแสดงงานสุดท้าย เอลเลียตเรียกว่า “ผลงานป๊อปอาร์ตของดาลิ” ซึ่งนับว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดศิลปินแนวนี้มากมาย ทั้งแอนดี วอร์ฮอล และเจฟฟ์ คูนส์
เชื่อว่าอีก100ปีก็จะไม่มีอาร์ตีสคนใดในโลก สามารถคิดคอมโพส แตกหลักการผสมสีที่วิจิตรพิศดารในเชิงลึก ฉีกหนีแนวคิดทฤษฎีเดิม ดั่งdaliได้เลยหลายคนยังก๊อบปี้ สี ลีลา สารพัดแบล็กกราวด์ แล้วยืดอกบอกเล่าว่า เราคิดขึ้นมาเอง
ตอบลบเขมราช สรสิทธิ์ โคราช
11/06/2013
ประเทศเดนมาร์ค เขมราชไปเปิดแกลเลอรีี่ "อาร์เซียนอาร์ต" ณ เมืองโคเปนเฮเกน นานถึง10เดือน สร้าง-ซ่อมสีน้ำมันทุกสไตล์ ในปราสาทเมืองอุสเตอโบ รีโปรดักชั่นศิลปินดังนับ 20 ท่าน ทั้งงานคลาสสิคเหมือนจริง-แอปสแตรค-ซีสเคป งานภาพเหมือนจริง กษัตริย์เดนมาร์กทุกรัชกาล เขียนคนเดียวรับเงินมาคนเดียว ภาคภูมิใจมากครับ สักวันหนึ่งฉันจะกลับไปอีก เขมโคเปนเฮเกน อิตาลี ปารีส เยอรมันนี อเมริกา กว่า100ประเทศ
ตอบลบช่างเขียนไทยไปมาแล้วครับ สวัสดี มังเงอทัก.....