
นิทรรศการในคอนเซ็ปต์ Staatliche Graphische Sammlun ไม่อาจจะแสดงความเป็นตัวตนและผลงานของ เอดูอารด์ ฟุยยารด์ ได้ทั้งหมด ทว่าสามารถเห็นเทคนิคพิเศษที่ไม่เหมือนใครของเขาที่ใช้ในงานภาพพิมพ์หิน ซึ่งแม้เขาจะสร้างสรรค์งานในรูปแบบนี้อยู่ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ไม่เกิน 8 ปี แต่นับว่ามีผลงานภาพพิมพ์หินเด็ดๆ ออกมามากมายทีเดียว

ผลงานภาพพิมพ์หินในยุคแรกๆ ของเขาออกมาเป็นสีขาว-ดำ โดยเป็นการออกแบบฉากละครของกลุ่มอาวองต์-การ์ด ในทศวรรษที่ 1890 ที่เขามีส่วนร่วมด้วยอยู่หลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นละครที่มีเนื้อหาไม่ธรรมดา และไม่ใช่ละครที่สร้างขึ้นสำหรับทุกคน
เอดูอารด์ยังพัฒนาเทคนิคในภาพพิมพ์ของเขาขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น โดยเฉพาะเทคนิคการพิมพ์สีของเขาเมื่อเริ่มเปลี่ยนมาทำภาพพิมพ์หินสี ที่กลายเป็นเรื่องใหม่ๆ ของแวดวงศิลปะขณะนั้น ซึ่งสำหรับศิลปินในยุคใกล้เคียงกันในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 อย่าง อองรี เดอ ตูลูส-โลเทร็ก และ ปิแอร์ บอนนารด์ แล้ว เรื่องการใช้สีแบบซอฟต์ๆ เบลอๆ บนภาพพิมพ์ของเขากินขาด เช่นเดียวกับองค์ประกอบภาพซึ่งแปลกประหลาดไม่ธรรมดา

ปีถัดมาเขาก็ออกจากโรงเรียนกลางคัน ตามคำแนะนำของแคร์ เพื่อนสนิท โดยไม่ได้ไปร่วมกับกองทัพ แต่ไปฝึกงานในสตูดิโอศิลปะของ ดิโอแชน ไมล์ยารต์ เขานำพื้นฐานศิลปะที่เรียนจากจิตรกรอาชีพ ไปสอบเข้าโรงเรียนศิลปะ เอกอน เดส์ โบซาร์ตส์ แม้ต้องสอบถึง 3 ปี แต่ก็ไม่ละความพยายามจนได้เข้าเรียนในที่สุด

เอดูอารด์ ฟุยยารด์ สร้างสรรค์ผลงานเพื่อร่วมแสดงในนิทรรศการของกลุ่มนาบีส์อย่างสม่ำเสมอ โดยภายหลัง พวกเขานั่งทำงานในสตูดิโอเดียวกัน (กับ ปิแอร์ บอนนารด์ และ โมริซ เดอนีส์) และหลังจากนั้นก็ได้ไปร่วมงานออกแบบฉากละครให้กับ เตอาร์ตร์ เดอ เลิฟร์ ของลูเญ-โป

เอดูอารด์มีผลงานศิลปะบนฝาผนังบ้านชิ้นแรก (Apartment frescoes) ในบ้านของมาดามเดส์มาเรส์ หลังจากนั้นใครๆ ก็อยากให้ศิลปินดังไปละเลงฝาบ้านอีกหลายหลัง ตั้งแต่บ้านของ อเล็กซองดร์ นาตองซง โคล้ด อะเนต์ และเลยไปถึงโรงละคร เตอาร์ตร์ เดส์ ชอมป์เซลิเซส์ ปาเลส์ เดอ ไชโยต์ ในกรุงปารีส (ปิแอร์ บอนนารด์ ร่วมวาดด้วย) แล้วก็ ปาเลส์ เดส์ นาซิยงส์ ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ร่วมกับ โมริซ เดอนีส์, แคร์ ซาวิเยร์ รุสเซล, และนักประวัติศาสตร์ศิลป์ อองเดร ชาสเตล)

ภาพเขียนมุมต่างๆ ภายในบ้าน ภาพท้องถนน และภาพวาดในสวน เป็นผลงานส่วนใหญ่ของเขาที่เต็มไปด้วยมุขขำแบบเบาๆ ภาพเขียนแสนละเอียดลออในสีอ่อนๆ และออกเบลอๆ เป็นเอกลักษณ์ที่เห็นในภาพรวม ชีวิตสุดแปลกของเขาคือ อาศัยอยู่กับแม่ที่เป็นช่างตัดเสื้อจนกระทั่งอายุ 60 ปี
เอดูอารด์ไม่เคยวาดภาพพอร์เทรตใครเลย จนกระทั่งปี 1912 ที่เริ่มวาด Theodore Duret in his Study (อยู่ที่หอศิลป์แห่งชาติ กรุงลอนดอน) หลังจากนั้นการวาดภาพบุคคลถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา
ในบั้นปลาย เอดูอารด์เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินรางวัลบลูมองตัล (Prix Blumenthal) ที่มอบให้ศิลปินยอดเยี่ยมทั้งสาขาจิตรกรรม ประติมากรรม การตกแต่ง ภาพพิมพ์ วรรณกรรม และดนตรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น