วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สีสันชีวิตศิลปินโบฮีเมียน


โรเบิร์ต เดอ นีโร ซีเนียร์ ชื่อแสนคุ้นเคยอย่างนี้ บอกเลยแล้วกันว่าเขาคือบิดาผู้ล่วงลับของนักแสดงออสการ์ชื่อเดียวกัน โรเบิร์ต เดอ นีโร ซึ่งแม้หน้าตาจะหล่อเหลาดูดี ไม่แพ้ลูกชาย นักแสดง แต่ทั้งชีวิตผู้พ่อทุ่มเทให้งานศิลปะล้วนๆ

สตูดิโอในย่านโซโห กรุงนิวยอร์ก คงเก็บทุกอย่างเอาไว้เช่นวันสุดท้ายที่ โรเบิร์ต เดอ นีโร ซีเนียร์ (ปี 1922-1993) ยังมีชีวิตอยู่ แม้เวลาจะล่วงผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้วก็ตาม – ใครที่ได้มีโอกาสไปชม จะได้เห็นบรรยากาศของศิลปินสไตล์โบฮีเมียนจากยุคทศวรรษที่ 1950 ไม่ว่าจะเป็นกรงนกรูปไข่ หรืออุปกรณ์สกีจากยุคนู้น

ขณะที่ฝาผนังของสตูดิโอสไตล์ลอฟต์ ประดับประดาไปด้วยผ้าทอมือและหน้ากากหลากสีสันและสไตล์จากแอฟริกา ภาพใบปิดสไตล์โฟล์กอาร์ต ภาพดรออิงไร้สีตัดกับภาพวาดสีน้ำสดใส

บริเวณระเบียงอัดแน่นไปด้วยเฟรมผ้าใบวางพิงซ้อนๆ กัน คู่กับแจกันสีสดตั้งยาวเป็นแถว นำทางสู่ด้านในของสตูดิโอขนาดใหญ่ ที่มีขาตั้งเฟรมสำหรับวาดรูปอยู่ 3 ตัว – ขาตั้งตัวหนึ่งยึดครองพื้นที่โดยภาพแลนด์สเคป สไตล์โฟวิสต์ ที่ โรเบิร์ต เดอ นีโร ซีเนียร์ วาดไว้ในปี 1977 ใกล้ๆ กัน หลอดสีน้ำมันอ้วนพองและระเบิดออกตามกาลเวลา ปล่อยสีให้เลอะเทอะอยู่บนโต๊ะวาดรูป

ที่แห่งนั้นหาได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศิลปิน ซึ่งลูกชายนักแสดงออสการ์เคยบอกไว้ว่า จะเก็บรักษาไว้อย่างนี้จนวันสุดท้ายของชีวิตเขาเอง เพื่อลูกๆ จะได้รู้จักคุณปู่ยอดศิลปิน

โรเบิร์ต เดอ นีโร จูเนียร์ กับ ซีเนียร์
ณ ตอนนี้ แม้จะมิใช่ญาติสนิทมิตรสหายของ โรเบิร์ต เดอ นีโร (นักแสดง) ก็สามารถจะเรียนรู้เรื่องราวของ โรเบิร์ต เดอ นีโร ซีเนียร์ ได้ที่ ดีซี มอร์ แกลเลอรี กรุงนิวยอร์ก ในนิทรรศการ Robert De Niro, Sr. : Paintings and Drawings 1960-1993 ซึ่งจัดแสดง ผลงานทั้งชีวิตของศิลปินอเมริกัน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนเชื่อมโลกศิลปะโมเดิร์นนิสม์ของยุโรป เข้ากับศิลปะแอบสแทรกต์ เอกซ์เพรสชันนิสม์ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเบ่งบานที่ฝั่งอเมริกา ระหว่างวันนี้ – 28 เม.ย.

นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดแสดงผลงานศิลปะเต็ม รูปแบบนอกบ้านของศิลปิน (Estate of Robert De Niro, Sr.) อันเป็นสถานที่จัดแสดงหลัก ประกอบด้วย ภาพหุ่นเปลือย (Figure Painting) ภาพแลนด์สเคป ภาพสติลไลฟ์ รวมทั้ง ชาร์โคล ดรออิง อันเป็นผลงานจากช่วงชีวิตการทำงานเข้มข้น ระหว่างปี 1960-1993

แต่ละภาพแสดงให้เห็นการใช้เส้น การวาดโครงร่างนาง/นายแบบอย่างมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังแสดง อิทธิพลอย่างสูงที่ได้รับจากศิลปินระดับมาสเตอร์ชาวยุโรป อย่าง อูแชน เดอลาครัวซ์ ไปจนถึง อองรี มาติสส์

ด้วยพื้นฐานทางศิลปะที่แน่นปึก ผสมผสานกับบรรยากาศจากแวดวงศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์ก นอกจากนี้ ยังได้ศึกษากับครูดี เช่น ฮันส์ ฮอฟแมนน์ ที่โรงเรียนศิลปะนิวยอร์ก และโพรวินซ์ทาวน์ แล้วยังจะมี โจเซฟ อัลเบอร์ส แห่งแบล็กเมาเทน คอลเลจ ที่นอร์ทแคโรไลนาอีก

ทศวรรษที่ 1930 โรเบิร์ต เดอ นีโร ซีเนียร์ ได้ไปฝึกงานที่พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ของ ฮิลลา เรเบย์ ซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายทางศิลปะ แน่นอนว่า เขาสร้างสรรค์ ทดลองศิลปะในสไตล์ของตัวเองควบคู่ไปด้วย และได้เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงศิลปะ Art of This Century in New York ปี 1945 ณ เพกกี กุกเกนไฮม์ แกลเลอรี ซึ่งขณะนั้นนับว่าเริ่ดที่สุด เป็นศูนย์รวมของศิลปะเด็ดๆ ของยุโรปที่ทะลักเข้ามา รวมถึงเป็นที่ "ปล่อยของ" ของศิลปินไฟแรงชาวอเมริกัน ไล่มาตั้งแต่ แจ็กสัน พอลล็อก มาร์ก รอธโก โรเบิร์ต มาเธอร์เวลล์ และคลีฟฟอร์ด สติล เป็นอาทิ

ปีถัดมา โรเบิร์ตจัดนิทรรศการเดี่ยวเป็นครั้งแรก โดยผลงานส่วนใหญ่เป็นงานสไตล์แอบสแทรกต์ กับภาพวาดสีน้ำมันหุ่นเปลือย น่าเสียดายที่ผลงานในช่วงนี้ได้ถูกทำลายไปจากเหตุไฟไหม้สตูดิโอในปี 1949

นับจากปี 1950 ยอดศิลปินโบฮีเมียนก็มีผลงานแสดงเดี่ยวที่นั่นที่นี่อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งผลงานแสดงร่วมกับศิลปินชื่อดังของอเมริกาขณะนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น วิลเลม เดอ คูนิง ฟรานซ์ ไคลน์ ฟิลิป กัสตัน และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญๆ ก็อย่างเช่น งานแสดงศิลปะประจำปีของวิตนีย์ มิวเซียม งานแสดงศิลปะประจำปีที่สเตเบิล แกลเลอรี งานแสดงศิลปะรวมหัวกะทิโรงเรียนศิลปะนิวยอร์ก : รุ่นที่สอง รวมถึงงานแสดงศิลปะฉลองปี 1957 ของ จิววิช มิวเซียม ฯลฯ

แม้จะสร้างสรรค์ศิลปะอยู่ในยุคที่คาบเกี่ยวหลายๆ ความเคลื่อนไหวทางศิลปะของยุคใหม่ หาก โรเบิร์ต เดอ นีโร ซีเนียร์ นั้นมีความชัดเจนในตัวเองในการสร้างสรรค์ศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้สี รูปทรง ฝีแปรง และกระทั่งองศาโพสของแบบ

ในช่วงสุดท้ายของชีวิต (ปี 1985-1993) ผลงานของเขาเน้นไปที่ภาพสติลไลฟ์ ซึ่งคล้ายปลุกจิตวิญญาณของศิลปะการตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสขึ้นมาใหม่ ภาพสติลไลฟ์ รูปมะนาว กุหลาบ เหยือกน้ำ และแมนโดลินบนโต๊ะ ซึ่งเขาวาดที่สตูดิโอในโซโห นับเป็นประจักษ์หลักฐานได้อย่างดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น