เพิ่งครบรอบ 25 ปีแห่งการจากไปของ คีท แฮริ่ง ศิลปินสตรีทอาร์ตที่ฝากผลงานสุดป๊อปที่โลกไม่ลืมเลือน ก่อนจะจากไปในวัยเพียง 32 ปี ศิลปินผู้เอกอุมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่นาน หรือแม้จะชีวิตยืนยาวเกือบร้อยปี ถึงอย่างไรชีวิตคนก็แสนสั้นแต่ศิลปะนั้นยืนยาว
อันดับหนึ่งในดวงใจ ฟินเซนต์ ฟาน โก๊กห์ (คนเดียวกับวินเซนต์ แวน โก๊ะ นั่นแหละ) ศิลปินชื่อดังที่มีผลงานจำนวนมากที่สุดในอันดับท็อปลิสต์ของงานศิลปะราคาแพงที่สุดของโลก ซึ่งประวัติศาสตร์บันทึกเอาไว้ว่า เขาฆ่าตัวตายในวัย 37 ปี โดยใช้ปืนยิงไปที่หน้าอกของตัวเอง ทว่าหนังสือ Van Gogh : The Life ที่เขียนโดยสตีเฟน ไนเฟห์ และเกรกอรี ไวท์ สมิธ เมื่อ 2-3 ปีก่อน บอกว่า การตายของเขาอาจจะมาจากสาเหตุฆาตกรรม
เหตุการณ์ในตอนนั้น... ฟินเซนต์ยิงตัวเองที่บริเวณหน้าอกในกลางทุ่ง ก่อนจะซมซานกลับมายังที่พักซึ่งอยู่ไกลกว่าหนึ่งไมล์ แล้วเสียชีวิตในอีก 30 ชั่วโมงถัดมา ระหว่างนอนรอความตาย คนถามว่า เขาตั้งใจจะฆ่าตัวตายหรือ? ฟินเซนต์ตอบ... “อืม ผมคิดว่างั้น” ผู้คนก็เลยปักใจว่า เขายิงตัวเอง แต่ไม่มีใครพูดถึงขาตั้งและผ้าใบซึ่งถูกพบในที่เกิดเหตุ ทว่าไม่มีปืนสักกระบอก
สตีเฟนและเกรกอรี ยังชี้ว่า ฟินเซนต์ ฟาน โก๊กห์ เคยเข้าสถานบำบัดจิตมาก่อน ซึ่งทำให้เขาไม่ได้รับสิทธิในการครอบครองปืน นอกจากนี้วิถีกระสุนก็ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่น่าจะอยู่ในตำแหน่งของการยิงตัวเอง
ฟินเซนต์ วิลเลม ฟาน โก๊กห์ (มีชีวิตระหว่างปี 1853-1890) ถือเป็นจิตรกรเอกในยุคปลายอิมเพรสชันนิสม์ ผลงานของศิลปินชาวดัตช์ ได้การยอมรับทางด้านความงามของฝีแปรงที่เป็นเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และมีสีสันที่โดดเด่น
แม้จะไม่ได้ยึดอาชีพจิตรกรกระทั่งอายุเกือบ 30 หากในชั่วเวลาเพียงทศวรรษเดียวเขาก็มีผลงานมากกว่า 2,000 ชิ้น โดยผลงานที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักมากๆ อยู่ในช่วง 2 ปีหลังก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
ว่ากันว่า แสงอาทิตย์ที่เจิดจ้าทางใต้ของฝรั่งเศส ส่งให้ผลงานของเขามีสีสันที่จัดจ้าน และเขายังพัฒนาฝีมือจนมีเอกลักษณ์ฝีแปรงที่เฉพาะตัว ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ศิลปะรุ่นใหม่เชื่อว่า ผลงานที่โดดเด่นในบั้นปลายของวินเซนต์ แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของเขา
ศิลปินสตรีทอาร์ต และนักเคลื่อนไหวทางสังคม คีท อัลเลน แฮริ่ง (1958-1990) ผู้มีผลงานเข้มข้นอยู่ในทศวรรษที่ 1980 โดยเนื้อหาสาระมักเกี่ยวกับการเกิด การตาย เรื่องเพศ และสงคราม ผลงานของเขาส่วนใหญ่มุ่งหมายด้านการเมือง ซึ่งกราฟฟิกรูปร่างเหมือนคน (บ้างเรียกว่า ปีศาจตัวน้อย หรือโครงกระดูก) หลากสีสันของเขา ได้กลายเป็นภาษาภาพแห่งศตวรรษที่ 20
การแสดงออกทางความคิดทางสังคมและการเมือง มีแรงผลักดันมาจากเรื่องส่วนตัวล้วนๆ กราฟฟิกหลากสีสันนั้น ดูน่ารักก็ไม่ใช่ น่ากลัวก็ไม่เชิง ทว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ออกไปในด้านมืด โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ อันเป็นความตั้งใจของคีทที่ต้องการส่งสารในฐานะตัวแทนของชาวโฮโมเซ็กชวล ว่าพวกเขาไม่ใช่ชนกลุ่มน้อย สังคมต้องยอมรับในความมีอยู่แบบเท่าเทียม นอกจากนี้ยังมีเอดส์ที่กลายเป็นประเด็นหลัก ให้คีทออกมาเรียกร้องว่ารัฐจะเมินเฉยไม่ได้
หลังเห็นคนรอบข้างล้มตายด้วยโรคเอดส์ ในที่สุดเขาเองก็ตรวจพบเชื้อเอชไอวี ในปี 1987 ซึ่งผลงานหลังจากนั้น เขายิ่งไม่เล่าเรื่องอื่น อย่างเช่น Untitled (cat. no. 27) ผลงานขนาดใหญ่ที่เป็นภาพสเปิร์มตัวเขื่องสีขาวบนแบ็กกราวด์สีดำ คล้ายการเล่าเรื่องชีวิตของเขาเอง หรือภาพ Silence=Death ที่เขาวาดให้กราฟฟิกรูปปีศาจตัวเล็กๆ ของเขาอยู่ในอิริยาบถปิดหู ปิดตา ปิดปาก ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น