วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความงามใน...ภาพนู้ด


ตั้งแต่เมื่อแรกเริ่มที่ศิลปินรังสรรค์ผลงานศิลปะขึ้นมานั้น แนวความคิดเกี่ยวกับเรื่อง "เซ็กซ์" ก็ได้สอกแทรกเป็นเรื่องหลักอยู่ในงานศิลปะเนิ่นนานมาแล้ว การศึกษาเรื่องร่างกาย หรือเรือนร่าง มีควบคู่มากับพัฒนาการทางศิลปะตะวันตก โดยเฉพาะในยุคกลาง ที่ศิลปะได้รับอิทธิพลจากแนวคิดทางศาสนาเสียเป็นส่วนมาก ภาพเขียนบอกเล่าเรื่องตำนานจากพระคัมภีร์ไบเบิลหลายภาพ ก็แสดงออกในเชิงอีโรติก นำเสนอเรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ปกคลุม อย่างเช่น ภาพเขียนที่เล่าตำนานของมนุษย์คู่แรก คือ อดัมกับอีฟ โดยภาพหญิงชายที่ไม่สวมเสื้อผ้าดังกล่าวกลับมิได้ถูกจัดให้เป็นภาพลามกอนาจารแต่อย่างใด

ในวัฒนธรรมโบราณ มักมีจินตนาการทางด้านอีโรติกอยู่มาก รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่าง "เซ็กซ์" และ "ร่างกาย" ของมนุษย์นั้นแสนจะ เด่นชัด เช่น รูปปั้นในศิลปะคลาสสิกสมัยกรีก-โรมัน อันเต็มไปด้วย ชิ้นงานที่แสดงเรือนร่างเปลือยเปล่าอันสวยงามของทั้งชายและหญิง

จิตรกรยุคเรอเนสซองซ์จำนวนมากก็มีผลงานชิ้นเด่นๆ ประเภทภาพนู้ดของหญิงสาวบนผืนผ้าใบ เช่นเดียวกับศิลปินยุคพรี-ราฟาเอไลต์ ในปลายทศวรรษที่ 1900 ก็คือการย้อนกลับมาของเรือนร่างสวยงามอันเปล่าเปลือยบนผืนผ้าใบ ก่อนที่จิตรกรรมภาพนู้ดที่เน้นเสนอภาพเรือนร่างเปลือยในเชิงศิลปะจะลดน้อยลงไปในช่วงยุคคิวบิสม์และเซอร์เรียลิสม์ และย้ายมาเป็นนู้ดในศิลปะภาพถ่ายแทน

ภาพนู้ดชื่อดังและสวยที่สุดภาพหนึ่งในประวัติศาสตร์นั้น เห็นทีจะต้องยกให้เป็นของภาพ The Birth of Venus ของ ซานโดร บอตติเชลลิ (ค.ศ.1446-1510) ในศตวรรษที่ 15 จิตรกรรมซึ่งแสดงให้เห็นเรือนร่างเปลือยของหญิงสาว ที่ขึ้นชื่อว่า สวยที่สุดในตำนานของคริสเตียน ภาพเขียนภาพนี้ไม่เพียงจะถ่ายทอดความเชื่อทางศาสนาเท่านั้น แต่ว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของตำนานคลาสสิกด้วย

The Birth of Venus สวยงามราวบทกวี ที่เป็นตัวแทนขับขานท่วงทำนองของศิลปินอิตาเลียนในยุคเรอเนสซองซ์ พวกเขาต้องการฟื้นฟูเกียรติยศเดิมๆ ในศิลปะสมัยกรีก-โรมันกลับมาอีกครั้ง ตำนานคลาสสิกสมัยกรีก-โรมัน จึงย้อนกลับมาเป็นสาระสำคัญในศิลปะยุคดังกล่าว เช่นเดียวกับเรือนร่างเปลือยเปล่า ของทั้งเทพบุตร เทพธิดา ที่กลายเป็นตัวเอกของงานจิตรกรรม

ผู้ที่ว่าจ้างให้ ซานโดร บอตติเชลลิ วาดภาพนี้ คือตระกูลร่ำรวยของอิตาลี ชื่อ เมดิชี่ โจทย์ของเขาก็คือ กำเนิดวีนัสที่ผุดขึ้นมาจากท้องทะเล และเมื่อภาพจิตรกรรมชิ้นดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ ก็ไม่มีใครตั้งข้อกังขาหรือขัดแย้งแม้แต่น้อย The Birth of Venus ของ บอตติเชลลิ ทำให้คนเชื่อว่า นี่คือเทพธิดาวีนัสอย่างแท้จริง ต่างจากภาพวาดวีนัสก่อนหน้านี้ของศิลปินอย่าง ปอลล่าอีอูโล หรือ มาซาคโช ไม่ว่าจะเป็นด้านของเรือนร่างวีนัสในภาพ หรือสุนทรีย์แห่งสีสันในภาพ รวมทั้งดุลยภาพของ The Birth of Venus ภาพเชิงอีโรติกภาพนี้สวยงามเสียจนเราแทบไม่สนใจรายละเอียดของตัวเทพธิดา ที่อาจจะมีลำคอที่ยาวผิดสัดส่วนเกินไปเลย

ในการชื่นชมความงามของศิลปะภาพนู้ดหรือ อีโรติก โดยหลักการแล้วก็อาจมิได้แตกต่างจากการชมความงามของศิลปะโดยทั่วไปเท่าไรนัก นั่นก็คือ เราจะต้องพิจารณาว่าเรากำลังเห็นอะไรอยู่ ความงามของ ภาพนั้นอยู่ตรงไหน แยกแยะภาพเปลือยและภาพโป๊ออกจากกัน ค้นหาเบื้องหลังการทำงานของศิลปิน และความหมายในภาพวาด รวมทั้งสุดท้ายอย่าไปคำนึงถึงกฎตายตัว

คุณเห็นอะไรบ้าง

ภาพศิลปะบางภาพก็อาจจะนำเสนออย่างตรงไปตรงมา เช่น รูปของหญิงเปลือยนอนอยู่บนตั่งเตียง หากการพิจารณาความงามของภาพเขียนนั้น เราต้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์ลงไปยิ่งกว่านั้น เส้นหรือรูปทรงหนึ่งบนภาพ อาจจะดูคล้ายเส้นผม หรืออาจจะเป็นลวดลายอะไรบางอย่าง นั่นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในการจัดวาง ลงไปบนภาพ เมื่อเส้นรูปทรงคล้ายหนวด ไปประกอบอยู่กับ เส้นกรอบบางอย่าง ก็อาจจะกลายเป็นเพียงลายของเนคไทได้

โดยส่วนมากแล้ว การชื่นชมความงามของงานศิลปะ เรามักจะมองด้วยภาพรวมๆ มากกว่าจะมุ่งไปที่เส้น สี หรือขนาดของสิ่งใด สิ่งหนึ่งในภาพนั้น เช่น ตัวอย่างของภาพ The Birth of Venus ของ บอตติเชลลิ ที่สวยงามด้วยภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีสัน หรือดุลยภาพ การทิ้งพื้นที่ว่าง ฯลฯ ที่กลมกลืนเสียจนไม่มีใครอาจจะติเรื่องลำคอ แขน หรือไหล่ที่ผิดปกติของวีนัสในภาพ

การตัดสินว่าภาพที่เราเห็นนั้นงามหรือเปล่าในเบื้องต้นนั้น ต้องสังเกตว่า ศิลปินได้ผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างกลมกลืนและลงตัวขนาดไหน โดยใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นสำคัญ งานชิ้นไหนที่คุณเดินไปพบแล้วสามารถสะกดสายตาของคุณได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นดวงตาของแบบในภาพ รอยยิ้ม หรือเรือนร่างที่ละมุนละไมก็ตาม

ความงาม

คราวนี้มาเริ่มต้นพิจารณาเรื่องความงามอย่างพินิจพิเคราะห์กันบ้าง โดย ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องการเจาะดูไปทีละส่วนของภาพ อาจจะเริ่มจากสิ่งที่ดึงดูดคุณมากที่สุด เช่น ดวงตาของแบบ ส่วนมากภาพเขียนที่เป็นที่ยอมรับว่าสวยงามนั้น นางแบบหรือนายแบบในภาพ มักจะมีดวงตาซึ่งเป็นธรรมชาติ

จากนั้นก็เริ่มพิจารณาไปถึง ความสมสัดส่วน สีสันของภาพที่กลมกลืน รูปทรงต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นภาพ รวมทั้งพื้นผิวของภาพด้วย จะสังเกตได้ว่า แม้ภาพเขียนที่มีความเก่าแก่นับพันๆ ปีแล้ว แต่พื้นผิวของภาพดังกล่าวก็ยังคงความสวยงามของสีสันอยู่ แสดงว่าศิลปินท่านนั้นไม่เพียงแต่เป็นจิตรกรฝีมือเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีเทคนิคที่เยี่ยมยอดอีกด้วย (ตัวอย่าง - งานของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี "Lady with an Ermine" วาดไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1490 ตอนนี้ก็ยังมี พื้นผิวที่สวยงามอยู่)

ภาพที่จัดว่า ไม่งาม นั่นคือภาพที่เราดูแล้วรู้สึกว่า โป๊อย่างน่าเกลียด ไม่อยากดู กระอักกระอ่วน สะอิดสะเอียน ไม่ว่าจะเป็นด้วยเรื่องราวในภาพ หรือการวาดที่โจ่งแจ้งในเรื่องเซ็กซ์จนเกินไปก็ตาม

ภาพเปลือยกับภาพโป๊

ภาพนู้ดหรือภาพเปลือยนั้น นางแบบในภาพอาจจะสวมเสื้อผ้าก็ได้ หากเมื่อเราดูแล้วภาพนี้ช่างให้อารมณ์อีโรติกเหลือเกิน ภาพนู้ดที่เรียกว่ามีศิลปะนั้นมักจะมุ่งไปที่อารมณ์แห่งความสุนทรีย์ วัตถุประสงค์ของภาพก็เพื่อจะแสดงเรือนร่างและกล้ามเนื้ออันสวยงามของหญิงและชาย โดยมิได้มีส่วนในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศแต่อย่างใด

การที่ภาพมนุษย์ไม่สวมเสื้อผ้าจะสื่อสารต่อผู้ชมอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับระดับที่ศิลปินต้องการจะสื่อสารออกมาเป็นสำคัญ ภาพนู้ดส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยจินตนาการ ภาพโป๊เปลือยอาจจะเป็นเพียงภาพอีโรติกที่เต็มไปด้วยสุนทรีย์ หรืออาจจะกลายเป็นภาพแห่งความยั่วยวนยั่วยุทางเพศก็ได้ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบของภาพ รวมทั้งประสบการณ์ของผู้ชมความงามในภาพดังกล่าวด้วยเช่นกัน ดังที่กล่าวมาข้างต้น ภาพนู้ดบางภาพอาจจะเป็นความงามเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นความงามแบบสากล เมื่อใดที่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจในการชมภาพ ภาพหนึ่ง หมายความว่า ภาพนั้นเริ่มกลายเป็นภาพโป๊ไปแล้วในสายตาของคุณ ในขณะที่อีกคนหนึ่งอาจจะชื่นชมว่า ภาพเดียวกันเป็นความงามทางศิลปะที่ลงตัว

จินตนาการเป็นสิ่งที่ยากจะควบคุม และจินตนาการก็เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคนในการที่จะตัดสินว่า ภาพนั้นคือภาพโป๊หรือภาพเปลือย กันแน่

ความหมายในภาพ

ความหมายในภาพคือสิ่งสำคัญในการตัดสินความงามของศิลปะได้ที่ดีสุดอย่างหนึ่ง การที่เราได้รู้เบื้องหลังเบื้องลึกว่า ทำไม ศิลปินจึงปาดพู่กันสีนี้ลงไปตรงนี้ หรืออาศัยเทคนิคอื่นใดเติมเหลี่ยมมุมลงไปในภาพ เพื่อให้เกิดความรู้สึก ที่แตกต่างไปในภาพนั้น จะช่วยให้เราเข้าถึงความงามได้ง่ายขึ้นกว่าการตัดสิน ด้วยความรู้สึกของตัวเอง

ภาพเขียนชิ้นหนึ่งๆ จะไม่อาจจัดเป็นงานศิลปะได้เลย หากไม่มีการนำออกมาแสดง เสนอความคิดเห็นเบื้องหลังการวาดภาพ รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันด้วย

แม้ว่าการตีความจะเป็นเช่นเดียวกับรสนิยมและประสบการณ์ของแต่ละคน เช่นเดียวกับการชื่นชมความงามและการตัดสินว่า ภาพนั้นคือศิลปะหรือลามก อนาจาร แต่อย่างน้อยการได้รู้เบื้องหลังเบื้องลึกของชิ้นงานหนึ่งๆ ก็จะช่วยทำให้เราชื่นชมความงามได้ดียิ่งขึ้น และรู้ว่าศิลปินมีแรงบันดาลใจอย่างไร ขณะนั้น มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของศิลปิน จึงได้วาดภาพดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ชมความงามของภาพมีจินตนาการที่ย้อนรอยกลับไปยังยุคสมัยที่ศิลปินวาดภาพด้วย

ออกนอกกรอบ

ที่ว่ามาทั้งหมดทั้งมวลในการชื่นชมความงามของภาพเขียนโดยทั่วไป หรือความงามของภาพนู้ดนั้น สิ่งสำคัญก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม ประสบการณ์ และวัฒนธรรมของคุณเองเป็นหลัก

บางคนก็อาจจะชื่นชมศิลปะในยุคเรอเนสซองซ์ ส่วนอีกคนก็อาจ จะชอบภาพนู้ดในยุคโมเดิร์นนิสม์ หรือนีโอ-โมเดิร์นมากกว่า และศิลปินของแต่ละยุคสมัยก็มีเทคนิค ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม และความ มุ่งหมายในการวาดภาพที่แตกต่างกัน เช่น ศิลปินในยุคเรอเนสซองซ์ อย่าง ซานโดร บอตติเชลลิ เน้นวาดภาพเกี่ยวกับตำนานทางศาสนา และการฟื้นฟูศิลปะในยุคกรีก-โรมันกลับมาใหม่ อาจให้ความงามในแง่ สุนทรียภาพ มากกว่าศิลปินอย่าง กุสตาฟ คลิมต์ หรือ เอกอน ชิเล ในสมัย นีโอ-โมเดิร์น ซึ่งวาดภาพถ่ายทอดชีวิตที่คับแค้น หรือศิลปินอเมริกัน เม็กซิกัน และแอฟริกัน ก็จะวาดหรือปั้นชิ้นงานด้วยวัตถุประสงค์และ สิ่งแวดล้อมที่แตกต่าง ดังนั้นกฎเกณฑ์ของที่หนึ่ง ก็อาจจะใช้ไม่ได้กับอีกที่หนึ่ง

ยอดจิตรกร อย่าง มิเคลังเจโล ลีโอนาร์โด ดา วินชี หรือศิลปินเรอเนสซองซ์คนอื่นๆ อาจจะทิ้งสไตล์ที่เขาเห็นในความเป็นจริง ด้วยความที่มุ่งทำงานตอบสนองการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ และตอบสนองกับสาระทางด้านศาสนามากกว่า จะว่าด้วยเรื่องของผู้คนและสังคม

ส่วนศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ และโพสต์-อิมเพรสชั่นนิสม์ เช่น โคลด โมเนต์ ปิแอร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ เอ็ดการ์ เดอกาส์ ปอล เซซาน และ วินเซนต์ ฟาน โกะห์ กลับเป็นผลงานที่มีแนวทางตรงกันข้าม พวกเขาไม่วุ่นวายกับเรื่องศาสนาเลย แต่ย้อนกลับมาพูดถึงความเป็นไปในสังคมและผู้คนรอบๆ ตัวมากกว่า ซึ่งก็เป็นวิธีคิดที่แตกต่างไปจากศิลปินรุ่น อาวองต์-การด์ และ โมเดิร์นนิสม์ อีกนั่นเอง ที่คนกลุ่มนี้เน้นไปที่การนำเสนอสไตล์และภาพสัญลักษณ์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น อองรี มาทิส ปาโบล ปิกัสโซ ฯลฯ ที่ชิ้นงานนั้นเต็มไปด้วยไอเดียความคิด

ภาพนู้ดของพวกเขาอาจไม่มีความงามด้านสุนทรียภาพ หากทว่า ความงามอยู่ที่เบื้องหลังและความหมายในชีวิตของศิลปินเสียมากกว่า

2 ความคิดเห็น: