วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทิวทัศน์แห่งเวนิซ ของ จอห์น มอลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์





ผลงานมาสเตอร์พีซของ จอห์น มลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์ ทำลายสถิติในการประมูลของสถาบันคริสตีในกรุงนิวยอร์กด้วยมูลค่า 35,856,000 เหรียญสหรัฐ

นอกจากจิตรกรรมชื่อ Giudecca, La Donna della Salute และ San Giorgio อันเป็นภาพทิวทัศน์บริเวณแกรนด์ คาแนล ในกรุงเวนิซ จะเต็มไปด้วยความงามแล้ว ส่วนหนึ่งที่ราคาได้พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นั้น ก็เนื่องเพราะภาพเขียนชุด ดังกล่าวไม่ได้ออกสู่สายตาสาธารณชนมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว

ผู้ที่นำภาพเขียนชุดนี้ออกมาขายให้สถาบันคริสตี ได้แก่ สมาคมเซนต์ฟรานซิส ออฟ อัสซีซี ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่เก็บงานสะสมของชาวยุโรปเอาไว้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 90 และคอลเลคชั่นเวนิซของ เจ.เอ็ม.ดับเบิลยู. เทอร์เนอร์ นับว่าสมบูรณ์แบบ ที่สุด โดยเป็นชิ้นงานที่เคยนำออกแสดงที่รอยัล อคาเดมี ออฟ อาร์ต ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1841

ณ เวลานั้น Giudecca ได้รับคำชื่นชมมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของความรุ่มรวยแห่งสีสัน เป็นภาพเขียนที่โดดเด่น เต็มไปด้วยจินตนาการและชีวิตชีวา น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อสถาบันคริสตีได้ภาพนี้มา และประกาศออกไปว่าจะมีการประมูล ก็ได้เสียงตอบรับจากบรรดานักสะสมศิลปะมากมาย "นี่เป็นคอลเลคชั่นภาพเขียนที่ยอดเยี่ยม" นิโคลัส ฮอลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลปะมาสเตอร์พีซนานาชาติของสถาบันคริสตีกล่าวอีกว่า คอลเลคชั่น�ังกล่าวเป็นภาพเขียนที่หายาก "ไม่แปลกเลยที่จะทำลายสถิติการประมูลภาพเขียนทั้งหลาย นอกจากนี้ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม เทอร์เนอร์ก็เป็นหนึ่งในสุดยอดจิตรกรชาวอังกฤษด้วย"

หลังจากที่นำออกแสดงที่รอยัล อคาเดมี ออฟ อาร์ต ในกรุงลอนดอนในปี 1841 ภาพเขียนสีน้ำมันชื่อ Giudecca ในชุดดังกล่าวของ เจ.อ็ม.ดับเบิลยู. เทอร์เนอร์ ก็เปลี่ยนเจ้าของไป 9 ครั้ง โดยครั้งแรกขายไปในราคา 250 กีนี ให้ เอลฮานาน บิกเนลล์ ในปี 1841 ก่อนที่จะถูกขายกลับมายังสถาบัน คริสตีในปี 1863 ในมูลค่า 1,650 กีนี

ต่อมาปี 1897 สถาบันคริสตีได้ขายให้เซอร์โดนัลด์ เคอร์รี ไปในราคา 6,800 กีนี และหลานของเขาได้ขายให้วิลเลียม วู้ด พรินซ์ ไปในปี 1959 ผ่านทางแอ็กนิว เอเยนซี โดยไม่มีใครทราบตัวเลขในการซื้อขาย และภาพดังกล่าวก็กลับมายังแอ็กนิวอีกครั้งในปี 1992 และถูกขายให้กับนักสะสมผู้ไม่ประสงค์ออกนามท่านหนึ่ง โดยภายหลังได้นำไปบริจาคให้สมาคมเซนต์ฟรานซิส ออฟ อัสซีซี

จอห์น มอลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์ นับว่าเป็นจิตรกรนักวาดภาพแลนด์สเคปที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก ผลงานของเขาโดดเด่นขนาดได้แสดงนิทรรศการในรอยัล อคาเดมีตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ทั้งชีวิตเขาทุ่มเทให้งานศิลปะ ต่างจากศิลปินรุ่นเดียวกันในบ้านเกิด นั่นเป็นสาเหตุให้มีจิตรกรชาวอังกฤษไม่มากมายนักที่มีชื่อสียงในระดับนานาชาติ

เทอร์เนอร์ เกิดในลอนดอนเมื่อปี 1775 บิดาของเขาเป็นช่าง ตัดผม มารดาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็กมาก เขาได้รับการศึกษาในระบบเพียงเล็กน้อย ศิลปะเป็นอย่างเดียวที่เขามีโอกาสศึกษาด้วยตัวเอง พออายุเพียง 13 ปี เขาก็เริ่มเขียนรูปอยู่ที่บ้าน นำออกแสดงและขายในร้านตัดผมของบิดานั่นเอง

ขณะที่เทอร์เนอร์อายุ 15 ปี เขาก็ได้รับเกียรติอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยได้รับเชิญให้ไปแสดงงานที่รอยัล อคาเดมี และอีก 3 ปีต่อมาเขาก็มีสตูดิโอวาดภาพเป็นของตัวอง เขามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้รับเลือกให้เข้าไปนั่งในรอยัล อคาเดมีตั้งแต่อายุยังน้อยอีกด้วย โดยในปี 1802 เทอร์เนอร์ก็กลายเป็นสมาชิกเต็มตัวของรอยัล อคาเดมี ด้วยวัยเพียง 27 เท่านั้น ก่อนที่เขาจะออกเดินทางไปทั่วยุโรป

ความงดงามของทิวทัศน์ในกรุงเวนิซเป็นแรง บันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย โดยเขาไปที่นั่นเพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงของทะเลและท้องฟ้าในทุกฤดูกาล นอกจากนั้น เขายังต้องศึกษาเรื่องโครงสร้างทางภูมิศาสตร์และวาดออกมาเป็นรูปกราฟฟิก เขาอยู่ที่เวนิซเป็นปีๆ พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างสรรค์เทคนิคในการวาดภาพของตัวเองขึ้น โดยนำความรู้สึกแสนโรแมนติกและ เจิดจ้าของเขาถ่ายทอดลงไปในภูมิประเทศที่เขาเห็นจริงจดออกมาเป็นชิ้นงานที่โดดเด่น

เมื่อเขาอายุมากขึ้นดูเหมือนจะเริ่มกลายเป็น คนเพี้ยนๆ และแปลกแยก เขาไม่เคยมีเพื่อนสนิท ในชีวิตของเขามีแต่บิดา ซึ่งเขาอยู่ด้วยเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี เทอร์เนอร์ไม่อนุญาตให้ใครอยู่ด้วยเวลาที่เขาวาดภาพ และพักหลังๆ เขาก็เริ่มใช้ชีวิตออกห่างจากสังคมเรื่อยๆ เขาปฏิเสธที่จะเข้าประชุมในรอยัล อคาเดมี บางคนแทบไม่เจอเขาเป็นเดือนๆ เขายังคงเดินทาง...คนเดียว และจัดนิทรรศการภาพเขียนเป็นครั้งคราว แต่มักปฏิเสธ ที่จะขายรูป คราวใดที่เขาถูกตื้อให้ขายไปสักรูปหนึ่ง เขาจะดูหดหู่ไปเป็นสัปดาห์ทีเดียว

ในปี 1850 เทอร์เนอร์แสดงงานภาพเขียนครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นอยู่ดีๆ เขาก็หายไปจากบ้าน คนดูแลบ้านพยายามตามหาเขาอยู่เป็นเดือนๆ ในที่สุดก็ไปพบเขาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในเชลซี และป่วยหนักโดยไม่มีใครดูแล

จอห์น มอลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์ เสียชีวิตเพียง 1 วันหลังจากที่มีคนไปพบ ในปี 1851 คำสั่งเสียก่อนตายสำหรับเขาที่เรียกตัวเองว่า "ศิลปินหมดสภาพ" ก็คือ ภาพเขียนของเขาทุกชิ้นจะถูกยกให้เป็นสมบัติของประเทศอังกฤษ และขอให้ ฝังร่างของเขาไว้ในโบสถ์เซนต์ปอล

แม้ว่าเทอร์เนอร์จะโด่งดังจากผลงานภาพเขียน สีน้ำมันจำนวนมาก หากเขายังได้รับยกย่องให้เป็น ผู้บุกเบิกการวาดภาพแลนด์สเคปด้วยสีน้ำ โดยมี ผลงานสำคัญๆ อย่าง Calais Pier, Dido Building Carthage, Rain, Steam and Speed, Burial at Sea, และ The Grand Canal, Venice

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น