วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฌอง-บัปติสต์-กามิลล์ โกโรต์ ต้นตำรับ ภาพแลนด์สเคป



ในวัย 26 ปี ฌอง-บัปติสต์-กามิลล์ โกโรต์ ตัดสินใจทิ้งอาชีพเดิมที่ทำอยู่ เพื่อมาเป็นจิตรกร และก็สามารถสร้างความตื่นตะลึงให้วงการในทันใด ด้วยภาพเขียนแลนด์สเคปอันโดดเด่น จนกลายเป็น 1 ใน 5 หรือ 6 จิตรกรสาขาแลนด์สเคป ที่โลกต้องจารึก ร่วมกับ เมียนเดิร์ต ฮอบเบมา (ดัตช์) โคล้ด ลอร์แรน (ฝรั่งเศส) จอห์น มัลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์ (อังกฤษ) จอห์น คอนสเตเบิล (อังกฤษ)

ฌอง เกิดที่กรุงปารีส ในปี 1796 ณ บริเวณที่ขณะนี้อยู่ติด หอไอเฟล ครอบครัวของเขาเป็น ขุนนาง และไม่ชื่นชมกับพรสวรรค์ในด้านศิลปะของเขาเท่าไรนัก

ตลอดทั้งชีวิต ฌองไม่เคยมีความรู้สึกต้องการทำอะไรเพื่อเงินมาก่อน หลังจบการศึกษาที่เมืองโครน เขาก็เข้ารับการฝึกให้เป็น พ่อค้า ทว่าเขารังเกียจเล่ห์กลโกงในแวดวงธุรกิจ และเมื่อบิดาของเขาเห็นชอบด้วยเขาจึงเบนเข็มไปฝึกฝนทางด้านศิลปะทันที

ฌองอาศัยอยู่ในกรุงปารีส ทว่าเขาเดินทางไปทั่วประเทศฝรั่งเศส เพื่อสเกตช์ภาพธรรมชาติ และนำกลับมาวาดให้สำเร็จเป็นรูปภาพ ณ สตูดิโอของเขา นอกจากการเดินทางไปทั่วฝรั่งเศสแล้ว เขายังไปเยือนอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลีหลายต่อหลายครั้ง ตลอดระยะเวลาของชีวิต มีคนเดียวที่คอยวิพากษ์วิจารณ์งานภาพเขียน ของเขา และทำให้องยอมรับได้ นั่นคือ อาชิลล์-เอตนา มิชัลยง ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและอาจารย์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนอย่างเป็นแบบแผนมากนัก แต่อาศัยการศึกษาด้วยตัวเองมากกว่า

ฌองไม่เคยรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวเมื่ออยู่บ้านในกรุงปารีส ด้วยเพราะอุดมคติที่ได้มาจากโรงเรียนสอนศิลปะแลนด์สเคป บาร์บิซง (โรงเรียนสอนศิลปะแลนด์สเคปอย่างไม่เป็นทางการ) ซึ่งนิยมจะหนีออกไปชื่นชมกับ ทิวทัศน์ในชนบทมากกว่าสังคมเมือง นอกจากนี้ เขายังนิยมขนบในโรงเรียนสอนศิลปะฝรั่งเศส มากกว่าอังกฤษ และฮอลแลนด์ ที่เริ่มจะเฟื่องฟูขึ้นในยุคนั้น

เขาไม่เคยหยุดสร้างสรรค์องค์ประกอบภาพ ขึ้นจากภาพสเกตช์ธรรมชาติที่ได้มาจากที่ต่างๆ จนกระทั่งทำให้เกิดเป็นภาพเขียนทิวทัศน์ หรือภาพแลนด์สเคปที่เป็นต้นแบบของศิลปะสมัยใหม่ ที่ดูแล้วคล้ายบทกวีมากกว่าที่จะเขียนเรื่องราวความเป็นไปของชีวิตที่เกิดขึ้นจริงๆ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง

ฌอง-บัปติสต์-กามิลล์ โกโรต์ เริ่มจัดแสดงงานของเขาในซาลงต่างๆ ตั้งแต่ปี 1827 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยเพราะรูปแบบ ที่แตกต่างจากศิลปินท่านอื่นๆ ผู้คนได้ย้อน รำลึกถึงภาพที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเช่นในยุคโรแมนติก ภายใต้เทคนิคร่วมสมัย ที่สามารถสร้างสรรค์ภาพออกมามีความนุ่มนวล ในขณะเดียวกันก็มีการสร้างคอนทราสต์ในภาพด้วยการใช้แสงจ้า ดึงความสนใจกลายเป็นจุดเด่นของ ภาพเขียน

ในช่วงปลายของชีวิตจิตรกรเอก เริ่มสนใจวาดภาพแลนด์สเคปในแนวจินตนาการ มากยิ่งขึ้น คล้ายกับว่าได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลก ของเทพนิยาย นอกจากนี้ ภาพนู้ดของผู้หญิงก็เต็มไปด้วยจินตนาการคล้ายเธอไม่มีอยู่จริง ผลงานในช่วงปลายของเขาไม่ค่อยเป็นที่นิยม มากนัก หากเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลัง ที่ชื่นชอบวาดภาพแนวแลนด์สเคป

ขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ ฌองไม่เพียงได้การยอมรับในฐานะศิลปินผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น หากเขา ยังได้รับขนานนามว่า เป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆ คนหนึ่ง นอกจากจะคอยให้ความช่วยเหลือภรรยาม่ายของ ฌอง-ฟร็องซัวส์ มิลเยต์ เพื่อนของเขา ที่โรงเรียนบาร์บิซงแล้ว เขายังยกกระท่อมหลังหนึ่งให้ ออนอเร โดมีเยร์ ที่ตาบอดและช่วยตัวเองไม่ได้อีกด้วย

หลังจากที่เขาเปลี่ยนแนวในการวาดภาพ และเริ่มไม่ได้การยอมรับ ไม่นานเขาก็เสียชีวิต ที่กรุงปารีส โดยร่างของเขาได้รับการฝังอยู่ที่สุสานแปร์ ลาแชส

ตำนานของเขายังไม่จบลงง่ายๆ ยังมีกลุ่มคนที่ดำเนินรอยตามวิธีการวาดภาพแลนด์สเคป โดยการเรียนด้วยตัวเอง ชื่อว่า กลุ่มนักเรียน โกโรต์ ต่อมาอีกหลายยุคหลายสมัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น